วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประวัติโรงเรียน และความเป็นมา

ในปีงบประมาณ 2547    องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม โดย  นางมนพร  เจริญศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัดนครพนมให้เป็นศูนย์กลางการศึกษา การกีฬา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภูมิภาค  เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ประชาชนอยู่อย่างสันติสุข  มีคุณภาพชีวิตที่ดี   มีความตื่นตัวที่จะรับการพัฒนาให้เป็นคนที่มีศักยภาพและมีความรู้   ครอบครัวมีความสุข มีวัฒนธรรมประเพณีที่รุ่งเรืองและคงอยู่อย่างถาวร  โดยเน้นที่จะพัฒนาคนให้มีคุณภาพและศักยภาพ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และสังคม  เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัด และแผนพัฒนาแบบบูรณาการของจังหวัดนครพนม  ซึ่งได้กำหนดแนวทางการพัฒนาภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านสังคม แนวทางหนึ่งคือ การจัดตั้งโรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนม เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ   ส่งเสริมการจัดกิจกรรมด้านสันทนาการ  การแข่งขันกีฬา  การพักผ่อนหย่อนใจ  ทำนุบำรุงปรับปรุงสนามกีฬา  ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์สุขภาพสำหรับเป็นสถานที่แข่งขันกีฬา  และออกกำลังกายของเยาวชนและประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดนครพนม
          องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีบทบาทอำนาจหน้าที่ในการจัดการศึกษาส่งเสริมสนับสนุนการกีฬา ตลอดจนการจัดให้มีและบำรุงสถานที่สำหรับการกีฬาตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด  พ.ศ. 2540  ประกอบพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542   จึงได้กำหนดให้มีโครงการจัดตั้งโรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนมขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนในท้องถิ่นได้รับการพัฒนาและฝึกทักษะ  ตลอดจนมีความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาที่ทันสมัย  มีความสามารถเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในทุกระดับ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศทางการกีฬา  ภายใต้ปรัชญา เน้นคุณธรรม  นำการกีฬา  พัฒนาท้องถิ่น”  ซึ่งแสดงถึงศักยภาพทางด้านการกีฬาของจังหวัดนครพนมในการที่จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย สามารถพัฒนาให้เป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดได้อีกทางหนึ่ง  โดยเริ่มจากการประชุมและศึกษาดูงานจากโรงเรียนกีฬาของจังหวัดต่าง ๆ
        ในการดำเนินการช่วงแรก จังหวัดนครพนม ได้ออกคำสั่ง ที่ 2229/2547 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานโครงการจัดตั้งโรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนม ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธานที่ปรึกษา และรองนายก อบจ.นครพนม และหัวหน้าส่วนราชการ เป็นคณะทำงาน  โดยให้มีหน้าที่รวบรวมและจัดทำรายละเอียดการจัดตั้งโรงเรียน การจัดการเรียนการสอน รวมทั้งการศึกษาดูงาน เพื่อพัฒนาข้อมูลการจัดตั้งโรงเรียน ให้เกิดประสิทธิภาพ จนกว่าการจัดตั้งโรงเรียนกีฬาจะดำเนินการให้เป็นรูปธรรม ตามนโยบายการบริหารงานการพัฒนาสังคมของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ในสมัยนั้นที่ได้แถลงไว้ในคราวประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2547 ครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2547 ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้กำหนดเป้าหมายที่จะจัดให้มีการจัดตั้งโรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนมขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะจัดการศึกษา และส่งเสริมทักษะด้านการกีฬาให้แก่ประชาชนในจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ และคุณภาพของการกีฬาให้ได้มาตรฐานแบบยั่งยืน  รวมทั้งพัฒนาและส่งเสริมการกีฬาของจังหวัดนครพนมสู่ความเป็นเลิศ อันเป็นการดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่ง โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2548 โดยคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งได้กำหนดชื่อโรงเรียน คือ โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนมมีชื่อย่อว่า กนพจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยเรียนร่วมกับนักเรียนปกติ  และได้ขอตัว นายกฤษฎา  จันทร์สว่าง  รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 มาปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน ว่าที่ ร.อ.พรสถิตย์ บุพศิริ ครูโรงเรียนไชยบุรีวิทยาคม และนายวิทยา  พลหาราช ครูโรงเรียนบ้านไผ่ล้อม มาปฏิบัติหน้าที่เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน
          และ ในปีการศึกษา 2548 ได้เริ่มรับนักเรียนที่มีความสามารถด้านกีฬา โดยการรับสมัครและตั้งคณะทำงานเพื่อคัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถ มาเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 4 ชนิดกีฬา คือ ฟุตบอล กรีฑา ตะกร้อ มวยไทย รวมทั้งสิ้น 40 คน  โดยจ้างครูผู้ฝึกสอนกีฬาที่มีความสามารถมาเป็นผู้ฝึกสอน ได้มีการจดบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (Memorandum of Understanding : MOU) ภายใต้ชื่อ บันทึกความร่วมมือการจัดการศึกษา โครงการเรียนร่วมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านกีฬา ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 1   เมื่อวันที่ 10  สิงหาคม  2548  และได้ขออนุญาตใช้สถานที่ดำเนินกิจกรรมตามโครงการเรียนร่วมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านกีฬา  ณ โรงเรียนชุมชนอาจสามารถ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง  จังหวัดนครพนม  ได้ทำการสอนเรื่อยมา
          และเมื่อวันที่  19 พฤษภาคม 2553  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม โดย  ดร.สมชอบ  นิติพจน์   นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  นายอารมณ์  เวียงด้าน นายธนพส  รัตนรามา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เขตอำเภอเมือง และผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษานครพนม ได้ทำพิธีรับการถ่ายโอนโรงเรียนชุมชนอาจสามารถ จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 1 ซึ่งมี นายปริญญา ธรเสนา  รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 1 เป็นตัวแทนมอบ  โดย นายประจักษ์จิตต์  อภิวาท รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มาเป็นประธานในพิธี  และถือได้ว่าโรงเรียนนี้ได้ถ่ายโอนภารกิจทั้งหมด ในการจัดการศึกษาให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมได้บริหาร ซึ่งเป็นภารกิจใหม่ที่ท้าทายฝ่ายบริหาร ที่จะได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัดนครพนมให้เป็นศูนย์กลางการศึกษา  การกีฬา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภูมิภาค ตามเจตนารมณ์ เบื้องต้นต่อไป  ในขณะที่โอนมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีนักเรียนระดับประถมศึกษา ซึ่งเรียนอยู่ในระดับประถมศึกษา ทั้งสิ้น 19 คน และมีนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 130 คน ซึ่งได้ไปเรียนที่โรงเรียนนครพนมวิทยาคม  และข้าราชการครูโรงเรียนชุมชนอาจสามารถเดิม ได้ขอย้ายกลับคืนต้นสังกัดเดิมทั้งหมด ยังเหลือผู้ช่วยครู และบุคลากรที่มีความสามารถด้านกีฬา ที่สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ได้ทำหน้าที่จัดการเรียนการสอนแทนชั่วคราว
          เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2554 องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ได้รับโอน นายสามารถ  วังคะฮาด ผู้อำนวยการโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 1 มาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนอาจสามารถ  และได้บรรจุและแต่งตั้งครูผู้ช่วยอีก 4 ตำแหน่ง เพื่อมาจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนนี้  
            ปัจจุบัน โรงเรียนนี้เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษา  มีนักเรียน  178 คน ข้าราชการครู 5 คน และบุคลากร ที่สนับสนุนการจัดการศึกษาทั้งหมด รวม 20 คน มีประเภทกีฬาที่เปิดสอน 5 ประเภท คือ ฟุตบอล  ตะกร้อ  วอลเลย์บอล มวยไทย และ กรีฑา พื้นที่โรงเรียน ประมาณ  27  ไร่เศษ และมีอาคารหอพักนักเรียน 3 หลัง อาคารเรียน 3 หลัง อาคารประกอบอื่น 2 หลัง สนามกีฬาอเนกประสงค์ 4 สนาม ส้วม 16 ที่ ห้องอาบน้ำมาตรฐาน 10 ห้อง ห้องอาบน้ำรวม 1 ห้อง       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น